รับผลิต,ตู้กระจก,ตู้โชว์จิวเวอร์รี่,เคาร์เตอร์เก็บเงิน,ตู้เครื่องสำอางค์ ,ตู้ไฟโชว์เครื่องสำอางค์,ตู้โชว์กระจก,ตู้เคาร์เตอร์แบรนด์,Counter Brand Showcase,showcase glass

บทความ

เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน (BUILT-IN) ต่างกับเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป ลอยตัว อย่างไร

04-12-2557 01:52:55น.

 เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน (BUILT-IN)  ต่างกับเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป ลอยตัว อย่างไร

เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินก็คือ การทำเฟอร์นิเจอร์ที่มีการออกแบบให้มีขนาดเหมาะสมลงตัวกับพื้นที่ที่จะติดตั้ง อาจจะเป็นการทำขึ้นที่หน้างานหรือทำขึ้นจากโรงงานแล้วนำมาประกอบที่หน้างานก็ได้ อาทิเช่น ตู้เสื้อผ้า ตู้โชว์ ตู้ลอย ตู้ครัว งานกรุผนัง ตู้หนังสือ ตู้วางทีวี หัวเตียงนอน ฯลฯ

ในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่ามีเฟอร์นิเจอร์ บิลท์อินหลายวัสดุ หลายประเภท ราคาก็แตกต่างกันไปตามวัสดุที่ใช้ด้วยเช่นกัน วัสดุหลัก ๆ ที่มีในการทำบิลท์อินได้แก่ 1. ไม้ตีโครงปิดด้วยไม้อัด  2. ไม้ mdf พ่นสี  3.ไม้MDF หรือ PATICLE ปิดลามิเนต 4. ไม้ mdf หรือ paticle เคลือบเมลามีน 5. แบบผสมกัน

1.             ไม้ตีโครง ปิดด้วยไม้อัด

ไม้ตีโครงที่ว่าทำหน้าที่เหมือนกระดูก ส่วนไม้อัดทำหน้าที่เหมือนผิว  การทำเฟอร์นิเจอร์ด้วยลักษณะแบบนี้จะเป็นแบบมาตรฐาน คือมีความแข็งแรง และเป็นที่นิยมทำกันมาตั้งแต่เดิม ส่วนราคา ก็จะอยู่ใน เรทประมาณ หมื่นกลาง ๆ ถึง สองหมื่นกว่า ทั้งนี้ ก็แบ่งราคาตามชนิดของไม้โครงและไม้อัดด้วย โดยจะแบ่งหลัก ๆ ดังนี้

1.1        ไม้ตีโครงไม้สัก ปิดด้วยไม้อัดสัก

แบบนี้จะเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะทนในด้านของการใช้งาน และกันปลวก ทั้งนี้ ต้องเป็นไม้สักที่แก่ หรืออาบน้ำยากันปลวก เท่านั้นครับ ราคา ก็อยู่ในช่วง หมื่นปลาย ๆ ถึง สองหมื่นกว่า ต่อเมตรครับ

1.2        ไม้ตีโครงไม้สยา หรือไม้ทุเรียน ไม้ยางพารา ปิดด้วยไม้อัดสักอิตาลี หรือไม้อัดธรรมดา  แบบนี้จะเป็นแบบกลาง ๆ ครับที่ต้องการความแข็งแรง ส่วนการทำสีนั้น ถ้าเป็นสีพื้นเช่นสีขาว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้อัดสักก็ได้ ราคาก็ถูกลงมา  ราคาก็อยู่ในช่วง หมื่นกลาง ๆ ถึง หมื่นปลาย ๆ ต่อเมตร

การแบ่งลักษณะแบบนี้เป็นการแบ่งคร่าว ๆ เท่านั้นครับ    แต่ปัจจัยหลักอีกอย่างของการตัดสินใจว่าเราควรจะเลือกใช้ไม้ตีโครงแบบไหน  ไม้อัดแบบไหน  ก็ขึ้นอยู่กับ theme  สีที่เราต้องการด้วยครับ อย่างถ้าเรา ชอบงานให้เป็นลายไม้สีโอ๊คเข้ม      เราก็ควรใช้ไม้อัดสักรุ่นที่มีลายชัดเจน    อย่างไม้อัดสักบางนา   ซึ่งราคาจะสูงครับ หรือเราจะใช้เกรดรองลงมาก็ได้

หรือถ้าเราอยากให้งานออกมาเป็นสีอ่อน เช่น สีบีช ก็ควรใช้ไม้อัดบีช สีไวท์โอ๊ค ก็ใช้ไม้อัดโอ๊ค , สีเมเปิ้ล ก็เลือกไม้อัดสีเมเปิ้ล  เป็นต้น ทั้งหมดนี้ จะอยู่ที่ราคา หมื่น ปลาย ๆ ถึงสองหมื่น ต้น ๆ ต่อเมตรครับ

2.             ไม้ MDF พ่นสี หรือ ไม้ MDF/PATICLE   ปิดด้วยลามิเนต

ไม้ MDF (Medium-density fibreboard) หรือเรียกว่าแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท Composite Panel ชนิดหนึ่งที่ได้จากการนำเส้นใยของไม้หรือพืชที่มีเส้นใย  หรือเส้นใยของวัสดุลิกโนเซลลูโลส (Lignocelluloses Material) วัตถุดิบที่ใช้ ยูคาลิปตัส ยางพารา ฯลฯ นำมาผสมกับกาวสังเคราะห์ แล้วจึงอัดเป็นแผ่นโดยกรรมวิธีแห้ง คืออัดด้วยความร้อน(Dry Process)เพื่อให้เกิดความยึดเหนี่ยวระหว่างเส้นใยจนเป็นเนื้อเดียวกันโดยมีกาว เป็นตัวช่วยประสาน โดยมีความหนาแน่นสูง              ส่วนไม้ Paticle เป็นไม้ที่เกิดจากการบดไม้ยูคาลิปตัส หรือไม้บางชนิด แล้วผ่านกรรมวิธีทำให้เป็นแผ่นครับ ความหนาแน่น จะน้อยกว่าไม้ MDF ครับ

การใช้งานจริง ไม้ทั้งสองชนิดนี้ ไม่ทนน้ำครับ แต่ถ้ามีการปิดผิวด้วยวัสดุลามิเนต หรือเป็นสีพ่น ก็ช่วยกันน้ำได้ในระดับหนึ่งครับ เหมาะสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ที่งบไม่มาก หรือต้องการทำเป็นแบบลอยตัว ชั่วคราวครับ ราคาต่อเมตรจะ อยู่ที่ 12000 ไม่เกิน 15000 ครับ

3.             ไม้ MDF หรือ PATICLE   ปิดผิวด้วยเมลามีน

เป็นไม้ที่ผ่านกรรมวิธิปิดผิวพลาสติกที่เรียกว่าเมลามีนโดยเครื่องความร้อนประมาณ 200 องศาครับ โดยจะเคลือบผิวสำเร็จจากโรงงาน มีให้เลือกหลายสีครับ  ราคาต้นทุนจะถูกมาก การคิดราคาบิลท์อินโดยใช้ไม้ชนิดนี้ จึงถูกตามด้วยครับ  พวกแบร์ดขึ้นห้างก็ใช้ไม้ชนิดนี้ทำเฟอร์นิเจอร์ แต่เกรดไม้ของเขาจะดีกว่าทั่วไปมากครับ  ส่วนราคาต่อเมตรของไม้ชนิดนี้จะอยู่ที่ 8000 / เมตรขึ้นไปครับ

ว่ากันเรื่องงานบิลท์อินจนยาว ทีนี้มาเรื่องเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมากครับ

เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว กรรมวิธีเหมือนกับการผลิตเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินทุกอย่าง ต่างกันตรงที่ช่างไม่ต้องไปติดตั้งหน้างานครับ ทำจากโรงงาน แล้วยกไปส่ง หรือลูกค้าเอาไปเอง แล้วกลับเลยครับ  ไม่ต้องเสียเวลาค่าแรงช่างติดตั้งหน้างานครับ ราคาจะถูกกว่างาน บิลท์อิน บางทีถูกกว่ากัน 3 เท่าตัวก็มีครับ

อย่างงานลอยตัว ที่ขายกันตามห้างหรือพวกแบรนด์เนมทั่วไปจะเป็นงาน mass product ครับ คือผลิตมาเป็นจำนวนมาก บางทีเป็น 10000 ชุดเลยครับ ราคาก็ถูกกว่าสั่งผลิตครับ ยกตัวอย่างครับ   ตู้วางทีวี ขนาด 1.6 เมตร สั่งทำ ไม้ paticle melamine ราคาจะอยู่ที่ ประมาณ 3000-6000 บาท แต่ถ้าไปซื้อตามร้าน ห้างทั่วไป ราคา จะอยู่ที่ 1000 ต้น ๆ เท่านั้นครับ

          ดังนั้นเมื่อคุณตัดสินใจจะทำเฟอร์นิเจอร์บิลอินท์ คุณควรทราบความต้องการของคุณว่าจะทำมันเพื่อประโยชน์ใช้สอยอะไร อันดับต่อไปคือการเตรียมการโดยแบ่งเป็น

   - การออกแบบ ซึ่งในส่วนนี้อาจจะได้มาจากนิตยสาร หรือคุณคุยกับนักออกแบบ หรือปรึกษากับช่างผู้มีประสบการณ์ ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการเหมาะสมกับพื้นที่และประโยชน์ใช้สอยของคุณ ซึ่งในส่วนนี้หากมีแบบออกมาบางแห่งอาจคิดค่าแบบ แต่หากให้ทางผู้รับออกแบบทำด้วยแล้ว ก็อาจไม่ต้องชำระค่าแบบเลยก็ได้

   - เลือกรูปแบบและดีไซด์ โดยที่คุณควรจะทราบว่าความต้องการของคุณเป็นแบบไหน โมเดิร์นหรือคลาสสิก เพื่องานที่ได้จะตรงกับความต้องการของคุณ แต่ทางที่ดีควรจะกลมกลืนกับการตกแต่งของห้องด้วย

   - การเตรียมพื้นที่ งานในส่วนนี้จะเป็นของผู้รับเหมาที่จะเข้ามาปรับระดับพื้น ผนัง และเพดานที่เฟอร์นิเจอร์ต้องเข้าไปจัดวางให้ได้แนวระนาบ เพื่อเตรียมการสำหรับติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน

   - และที่สำคัญที่สุด คือการเตรียมงบประมาณ  (ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ) เพราะอาจทำให้การเลือกใช้วัสดุบางตัวเหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมีด้วย

(ขอบคุณข้อความบางส่วนจาก www.prachacheun.com ครับ)